Metro-Clinic-เสริมจมูก

ศัลยกรรมเสริมจมูก

เสริมจมูกโด่ง ให้ทรงสวย ควรเลือกทำวิธีไหนดี ข้อควรระวังการทำศัลยกรรมจมูก

ศัลยกรรมเสริมจมูก นับเป็นการทำศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน เพราะจมูกนับเป็นจุดสำคัญ โดดเด่น และอยู่จุดกึ่งกลางบนใบหน้า ที่เมื่อได้ทำการศัลยกรรมตกแต่งจมูกให้มีรูปทรงที่สวย และรับกับใบหน้ามากขึ้นแล้วจะเสริมให้ใบหน้าดูสมส่วน มีมิติขึ้นอย่างชัดเจน โครงหน้าโดยรวมดูสวยขึ้น ทำให้ใบหน้าเรียว ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกหลายเท่าตัว แถมยังช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วย

เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ทั้งปัญหาจมูกเอียงและจมูกเบี้ยว ปลายจมูกบาง ปลายจมูกทะลุ จมูกอักเสบ ซิลิโคนลอย รูจมูกผิดรูป หรือทำมาแล้วไม่ชอบรูปทรง เพื่อให้คุณได้จมูกที่สวยที่สุดในการทำเพียงครั้งเดียว จบที่คลินิกเดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาคลินิกแก้ปัญหาจมูกหลายครั้ง เจอปัญหาที่ต้องแก้จมูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Metro Clinic Pratunam เมโทรคลินิกประตูน้ำรวบรวมเอาข้อมูลควรรู้ก่อนทำศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูกมีกี่วิธี ข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี เลือกทรงจมูกอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า มาให้ทุกคนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจค่ะ เพราะศัลยกรรมเสริมจมูก คนไข้ควรหาข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องความงามโดยตรง ใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่ปลอดภัย มีคุณภาพและมาตรฐานค่ะ

1. ศัลยกรรมเสริมจมูก คืออะไร

การศัลยกรรมเสริมจมูก หรือการเสริมจมูก Rhinoplasty (Nose Surgery) 

คือการผ่าตัดเพื่อทำศัลยกรรมตกแต่งรูปทรงจมูกให้สวยงาม รับกับรูปหน้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคนิคต่างๆ ทั้งการผ่าตัดจมูกแบบปิด (Closed Technique) และ การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด (Open technique) หรือใช้การผ่าตัดอื่นๆร่วมด้วย เช่น การเย็บอินเตอร์โดมปรับรูปกระดูกอ่อน การตะไบลดฮัมพ์ การตอกลดฐานจมูก การตัดปีกจมูก หรือการเสริมฐานจมูกและร่องแก้ม ร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทรงจมูก ที่สวย ดั่งที่ต้องการ ยั่งยืน และปลอดภัยที่สุด 

2. ศัลยกรรมเสริมจมูกเหมาะกับใครบ้าง

ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูกได้รับความนิยมในผู้คนทุกเพศทุกวัย (ควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป) ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้

  • ผู้ที่มีปัญหารูปจมูกไม่ได้สัดส่วน เช่น จมูกสั้น จมูกดูหนาและใหญ่ จมูกงุ้ม จมูกมีฮัมพ์ ปีกจมูกกว้าง หรือฐานจมูกกว้าง
  • ผู้ที่มีรูปจมูกผิดปกติ ทั้งจากความบกพร่องตั้งแต่กำเนิด หรือหลังจากประสบอุบัติเหตุ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้งให้ดียิ่งขึ้น

3. ศัลยกรรมเสริมจมูกมีกี่วิธี

ในปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูกจะแบ่งออกเป็น 2 เทคนิคหลักๆ ได้แก่

1. การเสริมจมูกแบบเปิด (OPEN Rhinoplasty Technique)

หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า การเสริมจมูกแบบโอเพ่น การเสริมจมูกแบบเปิดนี้ จะใช้วิธีการผ่าตัดเปิดจมูกเพื่อทำการปรับโครงสร้างจมูกโดยตรงจากภายในของจมูก ศัลยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะสามารถเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนทั้งหมด ซึ่งเห็นแนวสันจมูกได้อย่างชัดเจน ทำให้ศัลยแพทย์สามารถใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น ในการผ่าตัดได้หลากหลาย ปรับแต่งได้สะดวกและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น ใช้การยืดผนังกั้นจมูกหรือการตอกฐานจมูกร่วมด้วย ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ทรงจมูกจะดูสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยและไม่ทะลุค่ะ

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือการผ่าตัดแบบ OPEN Rhinoplasty Technique จะใช้ระยะเวลาทำนานกว่าการเสริมจมูกแบบปิดและแบบอื่นๆ ศัลยแพทย์ต้องมีความชำนาญ ทักษะและประสบการณ์สูงมากในการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพราะการเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน หากมีผลแทรกซ้อนการแก้ไขก็จะยุ่งยากมากขึ้น

การผ่าตัดจมูกแบบเปิด (Open Technique) มักนิยมใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมกับเทคนิคการยืดกระดูกอ่อนแกนกลางจมูก หรือในบางเคสที่พื้นฐานจมูกน้อยหรือมีผังผืดหดรั้งมาก จะนิยมใช้กระดูกอ่อนซี่โครง เพื่อทำโครงสร้างจมูกใหม่ โดยแบ่งการผ่าตัดOpenได้อีกเป็นสองลักษณะคือ

1.Open hybrid rhinoplasty คือ ปลายจมูกเป็นกระดูกอ่อนตนเองทั้งหมด หรือ ปลายไร้ซิลิโคน สันจมูกใช้วัสดุทางการแพทย์อื่นๆ นิยมเป็น ซิลิโคนตัว ไอ (I shape silicone)
2. Open total autologous rib reconstruction rhinoplasty คือการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงตนเอง มาทำจมูกใหม่ทั้งหมด ไร้ซิลิโคน

การเสริมจมูกแบบ open เหมาะกับใครบ้าง

– คนไข้ที่ต้องการเสริมจมูกครั้งแรก แต่ต้องการความปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว
– คนไข้ที่มีจมูกสั้น จมูกคด เบี้ยวเอียง หรือมีฮัมพ์สูง
– คนไข้ที่เสริมจมูกมาแล้วหลายครั้ง มีปัญหาผังผืดหดรั้งมาก ปลายสั้น โครงสร้างล้ม กระดูกเบี้ยวเอียง

โดยการเสริมจมูกแบบopen เป็นการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์สามารถเปิดแผลและเห็นโครงสร้างกระดูกอ่อนของจมูกทั้งหมด ทำให้สามารถแก้ไขและปรับสัดส่วนของจมูกได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับการเสริมจมูกทุกรูปแบบ ทุกรูปทรง ออกแบบให้รับกับใบหน้าเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะคนที่อยากได้ทรงจมูกโด่งและพุ่งเป็นพิเศษ เหมาะกับการเสริมจมูกทุกเคส โดยเฉพาะเคสที่ผ่านการแก้จมูกมาหลายครั้ง การเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยปรับแก้ไขโครงสร้างได้ทั้งหมด ลดโอกาสการเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุ จมูกเอียงหรือเบี้ยวได้อีกด้วย

สำหรับคนที่ไม่แน่ใจ ว่าตนเหมาะกับการเสริมจมูกแบบไหน ให้พิจารณาตามตารางนี้เลย

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

Closed VS Open ข้อดี ข้อเสีย ใครเหมาะกับวิธีใด…..ตารางภาพประกอบ

การผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น ศัลยแพทย์สามารถแก้ไขปัญหาเคสแก้จมูกทุกรูปแบบได้ในครั้งเดียว ผ่าตัดครั้งเดียวจบไม่มีการแก้ซ้ำซ้อน ไม่ว่าจะเป็นเคสจมูกทะลุ ซิลิโคนเอียง จมูกเบี้ยว
– diagram flow chart คนไข้แบบไหน เลือกผ่าตัด open แบบใด
– Open Hybrids rhinoplasty VS Open total autologous rib reconstruction rhinoplasty ตารางภาพประกอบ

2. การเสริมจมูกแบบปิด (CLOSED Rhinoplasty Technique) 

การเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลที่มีขนาดเล็กบริเวณด้านในจมูก ซึ่งการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด ทำได้ง่าย มีความซับซ้อนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่าการเสริมจมูกแบบโอเพ่น รวมถึงหลังการทำจะมีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดที่เล็กกว่าและสังเกตเห็นได้ยาก

การผ่าตัดเสริมด้วยซิลิโคน (Customized carving L-shaped silicone)  โดยแพทย์จะมีเทคนิคการเหลาซิลิโคนเฉพาะบุคคล เพื่อให้รับกับโครงสร้างจมูก และได้ทรงตามที่ต้องการ  ซึ่งทางคลินิกจะใช้ซิลิโคน implant medical grade เท่านั้น และมีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง อเมริกาและเกาหลี สามารถเลือกความนิ่มของซิลิโคนตามค่ายูโร 50 40 30 เพื่อให้เหมาะกับเนื้อจมูกของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด โดยปัจจุบันการเสริมด้วยซิลิโคนร่วมกับการรองปลายจมูกโดยใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือเนื้อเยื่อเทียม เพื่อรองปลายจมูกเป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากจะป้องกันปลายจมูกบางหรือปลายจมูกทะลุได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มเนื้อปลายจมูก เพิ่มความอิ่มละมุน หรือสามารถปรับแต่งปลายจมูกให้ดูคมชัดมากขึ้นได้อีกด้วย

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด

เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยเสริมจมูกหรือเพิ่งเสริมจมูกเป็นครั้งแรก เป็นการเสริมจมูกแบบซ่อนแผลในรูจมูก แผลมีขนาดเล็กมาก มีอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดน้อย ไม่ต้องวางยาสลบ ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และที่สำคัญราคาย่อมเยากว่าเมื่อเทียบกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

การรองปลาย ด้วย เนื้อเยื่อก้นกบ / เนื้อเยื่อเทียม / กระดูกอ่อนหลังหู ข้อดี ข้อเสีย ใครเหมาะกับวิธีใด….ตารางภาพประกอบ

การผ่าตัด Option เสริมอื่นๆ จำเป็นหรือไม่?

  • ใช้การผ่าตัดอื่นๆ เช่น การตะไบลดฮัมพ์ การตอกลดฐานจมูก การตัดปีกจมูก หรือการเสริมฐานจมูกและร่องแก้ม ไม่ได้มีความจำเป็นต้องทำในทุกราย
  • ต้องพิจารณาความเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละราย แต่การผ่าตัด Option เสริมร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทรงจมูก ที่สวย ดั่งที่ต้องการ ยั่งยืน และปลอดภัยที่สุด 

การตะไบปรับลดฮัมพ์ 

  • กรณีคนไข้ที่มีลักษณะสันจมูกสูงงุ้ม ปลายไม่พุ่ง มีปุ่มกระดูกนูนขึ้นมา ทำให้ดูเป็นทรงแข็งๆ หรือ ทำให้สันจมูกเป็นคลื่นไม่เรียบ จะต้องรักษาโดยการตะไบปรับปุ่มกระดูก หรืออาจจะต้องตอกลดขนาดปุ่มกระดูกร่วมด้วย รูปฮัมพ์แบบต่างๆ

การตอกฐานจมูก

  • กรณีคนไข้ที่มีฐานกระดูกจมูกและกระดูกใบหน้าส่วนกลาง กว้าง หนา ทำให้ดูจมูกเตี้ย และป้านออก การตอกลดฐานจมูกจะทำให้สันจมูกดูแคบลง และดูเรียว ขึ้นได้  ภาพคนไข้ที่มีฐานจมูกกว้าง ก่อนและหลังตอกฐาน ทำ ภาพ layer กระดูกจมูก

การตัดปีกจมูก หรือการตัดตกแต่งปีกจมูก 

  • กรณีคนไข้มีลักษณะปีกจมูกกว้าง ควรตัดตกแต่งปีกจมูก โดยพิจรณาตามแต่ปัญหาแต่ละบุคคล รูปคนไข้ปีกจมูกกว้างหลายๆแบบ flairing alar ,wide nasal sil, alar hanging ก่อนฝหลังทำ
  • การเสริมร่องแก้ม และ เสริมฐานจมูก
  • กรณีคนไข้มีใบหน้าส่วนกลางยุบตัวลง หรือกระดูกmaxilla ถอย ซึ่งพบบ่อยในคนเอเซีย โดยการเสริมจมูกอย่างเดียวจะไม่เพียงพอ จะต้องเสริมร่องแก้มเสริมฐานจมูก เพื่อยกใบหน้าส่วนกลาง ร่วมกับการเย็บกล้ามเนื้อฐานจมูกร่วมด้วย รูปประกอบ

สำหรับที่เมโทรคลินิกประตูน้ำ Metro Clinic Pratunam เทคนิคการเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2022 เพราะการเสริมจมูกแบบโอเพ่นสามารถเพิ่มความโด่งของจมูกได้มาก ตรงกับความต้องการของคนไข้ในปัจจุบัน และเทคนิคนี้แก้ไขปัญหาจมูกเบี้ยวเอียงได้ ในระหว่างการผ่าตัดคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ และหลังผ่าตัดคนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีค่ะ

ผู้ชายกับผู้หญิงเสริมจมูกจะแตกต่างกันไหม ?

ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นที่นิยมและยอมรับทั้งในผู้หญิงผู้ชาย และ และกลุ่ม LGBTQ นอกจากต้องการแก้ไขรูปทรงจมูกและเพิ่มความโด่งแล้ว ลักษณะและความต้องการของแต่ละกลุ่มและเพศก็จะต่างกันไปครับ

เสริมจมูกผู้ชาย จะเน้นเรื่องการทำดั้งโด่งมาก ๆ มีสันจมูกตรงสวย ทรงธรรมชาติตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มความคมให้ใบหน้าดูหล่อเข้มแมนๆ ไม่โป๊ะ

เสริมจมูกผู้หญิง นิยมเลือกรูปทรงจมูกโค้ง หยดน้ำ สโลปปลายพุ่ง สันจมูกสโลปลง ทำแล้วหน้าดูหวาน ดูเรียวสวย ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น 

4. ทรงจมูกสวย ทรงจมูกยอดนิยม ปี 2022

ทรงจมูกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จะเน้นการศัลยกรรมเสริมจมูกให้ดูโด่งและจมูกพุ่งมากขึ้น ตัดปีกจมูกให้แคบลง เพื่อให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม ซึ่งทรงจมูกสวยยอดนิยมประจำปี 2022 มีดังนี้

  1. จมูกทรงหยดน้ำ เป็นทรงจมูกยอดฮิตตลอดกาล ด้วยการเสริมให้จมูกดูยาวรับกับรูปหน้ามากขึ้น บริเวณปลายจมูกจะคล้อยและมีเนื้อเล็กน้อยมีลักษณะคล้ายกับหยดน้ำ เสริมให้ใบหน้าดูหวานละมุน ซึ่งจมูกทรงหยดน้ำจะเหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณปลายจมูก ใบหน้ายาว เพื่อให้ความยาวจมูกรับกับใบหน้า
  2. จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง เป็นทรงจมูกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากที่สุด ทั้งในกลุ่มของดารา เซเลป นักร้องและบุคคลทั่วไปที่อยากเสริมให้ใบหน้าดูหวานละมุน ลักษณะของจมูกทรงนี้จะเน้นจมูกสันสโลป เน้นปลายจมูกพุ่งไปทางด้านหน้า สูงขึ้นเล็กน้อย หรือพุ่งมาก ทำให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เป็นทรงที่เหมาะกับทุกคน เพราะสามารถทำให้เป็นธรรมชาติ สายเกาหลี หรือ สโลปปลายพุ่งมากแบบสายฝอก็ได้
  3. จมูกทรงสันคม เรียวโด่ง ทรงนี้สันจมูกที่ตรงยาวจะทำให้ใบหน้าสวยคมมากขึ้น ทรงจมูกจะเรียวโด่งชัดเจนเป็นพิเศษ บริเวณปลายจะเชิดขึ้นเพียงเล็กน้อย เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับคนที่มีหน้าผากนูน หน้าผากสูงจะเหมาะกับจมูกทรงนี้มาก
  4. จมูกทรงบาร์บี้ นับเป็นจมูกอีกทรงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มคนไทย โดยบริเวณตัวสันจมูกจะค่อนข้างกว้าง ปรับปลายจมูกให้ดูแคบลง เสริมความพุ่งและเชิดนิดๆ ไม่เน้นสันที่โด่งมากนัก จมูกทรงบาร์บี้จะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสวยหวานและน่ารัก เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้

5. เลือกทรงจมูกอย่างไรให้เข้ากับรูปหน้า

การศัลยกรรมเสริมจมูก นอกจากจะต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ในการผ่าตัดของแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกทรงจมูกให้รับเข้ากับรูปหน้าและไลฟ์สไตล์ของคนไข้เป็นรายบุคคล ซึ่งมีปัจจัยที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกทรงจมูกดังนี้

  • ทรงจมูกจะต้องรับกับรูปหน้าด้านกว้าง และความเรียวยาวของใบหน้า ซึ่งสัดส่วนที่เหมาะสมของจมูกจะเป็น 1 ใน 3 ส่วนของใบหน้า เช่น ในกรณีที่คนไข้มีใบหน้าค่อนข้างกลมและสั้น หรือมีแก้มเยอะ แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องออกแบบแกนจมูกไม่ให้เรียวเล็กจนเกินไป และไม่สูงโด่งมากเพราะอาจจะไม่รับกับขนาดความกว้างของใบหน้า
  • ทรงจมูกจะต้องเหมาะสมกับฐานจมูกเดิม เช่น ในเคสที่ฐานจมูกเดิมของคนไข้เป็นจมูกที่สั้น ปลายจมูกมีเนื้อน้อย แบบนี้ก็จะไม่เหมาะกับการเสริมจมูกให้ยาวขึ้น เพราะอาจจะทำให้ปลายจมูกบาง เกิดปัญหาซิลิโคนทะลุ หรือจมูกเอียงและเบี้ยวได้ หรือสำหรับในเคสที่มีเนื้อปลายจมูกค่อนข้างมาก ก็จะดีไซน์ทรงจมูกได้ง่ายและเลือกทำได้หลายทรง
  • ทรงจมูกควรรับกับช่วงหน้าผาก คนที่มีหน้าผากสูงหรือหน้าผากนูนเป็นพิเศษ จะสามารถศัลยกรรมเสริมจมูกให้ตัวสันดูโด่งสูงขึ้นมาได้ เช่น จมูกทรงสันคม เรียวโด่ง ปลายเชิด ซึ่งงานจะออกมาเนียนสวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา

6. การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัย ควรเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมจมูก ดังนี้

  1. แจ้งประวัติโรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ ปัญหาเกี่ยวกับฟัน การแพ้ยา แพ้อาหาร รวมไปถึงอาหารเสริมทุกชนิด
  2. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง
  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด งดรับประทานทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะจะส่งผลต่อการอักเสบของแผล
  4. ในวันที่เข้ารับการศัลยกรรมจมูก งดแต่งหน้า งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด
  5. ในวันที่เข้ารับการศัลยกรรมจมูก ล้างหน้า สระผมและทำความสะอาดจมูกให้สะอาด
  6. ควรพาญาติมาด้วย เพื่อให้ความช่วยเหลือในการติดต่อเจ้าหน้าที่ และดูแลในระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน

7. การดูแลตัวหลังการศัลยกรรมจมูก

หลังเข้ารับการศัลยกรรมจมูกจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย โดยแพทย์อาจแนะนำให้ปฎิบัติตัวดังนี้

  1. ประคบเย็นทันทีบริเวณจมูก หน้าผากและโหนกแก้ม วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที ใน 3 วันแรก โดยเว้นตรงแผลเอาไว้ (สันจมูกด้านซ้ายและขวา สันจมูกตรงกลางด้านบน ระหว่างคิ้ว) เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหล และยุบบวมไวขึ้น
  2. หลังการผ่าตัด อาการบวมมาก  3-5วันแรก จะค่อยๆยุบลงมากขึ้น จะเริ่มรัดแกนที่ 1 เดือน และจะเข้าที่อาจใช้เวลา 3-6 เดือน
  3. รอยฟกช้ำ จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จะหายสนิทประมาน2สัปดาห์
  4. หลัง 72 ชั่วโมงเป็นต้นไป แผลผ่าตัดจะเริ่มสนิทกัน ให้เปลี่ยนมาใช้การประคบอุ่นเพื่อลดรอยเขียว รอยช้ำ ม่วงได้
  5. ควรนอนหน้าตรง หัวสูง (หมอนสูงซ้อนกัน2ใบ) เพื่อให้เลือดไหลเวียนสู่หัวใจได้สะดวก จะยุบบวมเร็วขึ้น ห้ามนอนแตะแคง 1 เดือน แนะนำใช้หมอนรองคอขณะหลับ
  6. งดการใส่แว่นตากดทับจมูก เป็นเวลา 1 เดือน
  7. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือน
  8. งดรับประทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด ที่ส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
  9. ห้ามแผลโดนน้ำ 3 วัน ให้ทำความสะอาดใบหน้าโดยใช้ผ้านุ่มๆหรือสำลีเช็ดทำความสะอาดใบหน้า หลีกเลี่ยงทำให้แผลเปียก
  10. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก มีแรงกระแทก หรือเล่นกีฬา เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์
  11. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์, การสั่งน้ำมูกแรง, การขยี้จมูก, ก้มหน้านาน ๆ และยกของหนัก
  12. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่น หรือควัน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดการติดเชื้อได้
  13. กลับไปพบแพทย์ภายหลังการผ่าตัด ตามนัดหมาย หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

สรุป

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสวยสมส่วน ตอบโจทย์ทั้งสายหวาน สายเกาหลี สายเปรี้ยวหรือสายฝอ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูกที่สวยปัง เจ็บเพียงแค่ครั้งเดียว เราจึงควร